ความเสียใจที่สุดในชีวิตของผม คือการที่ผมหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองไปเรื่อยๆ ผมเคยเป็นคนที่คิดว่าค่อยเริ่มเรียนในเดือนหน้า หรือค่อยไปต่างประเทศปีหน้า แล้วผมก็อืดอาด ล่าช้า และก็ไม่เคยมีโอกาสหรือทำตามความฝันของผมเพราะผมคิดว่าเอาไว้ก่อน ค่อยทำทีหลังก็ได้
ผมเป็นคนโชคดีคนนึง ตอนผมอายุ 19 ผมได้ทำงานเป็นนักข่าว และได้สัมภาษณ์คนดังอย่าง Justin Bieber, Sia และ Mariah Carey แต่นั่นไม่ใช่อาชีพในฝันของผม ครอบครัวของผมต้องการให้ผมมีอาชีพที่มั่นคง และไม่อยากให้ผมทำตามความฝันตัวเองในการเป็นนักแสดง ได้ท่องเที่ยวทั้วโลก และพูดภาษาที่สอง
หลังจากที่ทำงานนี้ไปได้หลายปี ผมพบว่าลึกๆข้างในผมไม่ได้มีความสุขเลย ผมใช้ชีวิตเพื่อที่จะทำให้ครอบครัวของผมมีความสุขและลืมสิ่งที่ตนเองอยากจะเป็น ผมจึงตัดสินใจที่จะออกจากงาน และมาทำตามความฝันตัวเอง ผมบอกครอบครัวผมว่าผมมีประสบการณ์มากมายจากการเป็นนักข่าว และจากการทำโฆษณา ผมสามารถกลับมาทำอาชีพนี้ได้หากผมล้มเหลวจากการทำตามฝัน
ครอบครัวของผมยอมรับแต่ผมต้องจ่ายทุกอย่างด้วยตัวเองและพวกท่านขอให้ผมโชคดี ผมได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนการแสดง เพื่อเรียนการแสดงสำหรับละครและภาพยนตร์ อีกทั้งผมยังเรียนภาษารัสเซียที่ Sydney University และ เรียนภาษารัสเซียกับติวเตอร์แบบส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนี้ผมยังได้เรียนกับครูสอนแอคติ้งจากนิวยอร์ก และ อังกฤษ ผมได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ
เพื่อที่จะจ่ายค่าเรียนเหล่านี้ผมต้องทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะทำงานเป็นฝ่ายบุคคลในบริษัท, ผู้จัดการร้านอาหาร และงานพิธีกรต่างๆที่มอเตอร์โชว์ ผมทำงานหลายอย่างในขณะที่ผมเรียน
หลังจากที่ผมเรียนการแสดงจบ ผมได้ทำงานเป็นนักแสดง มีเล่นละครบ้างที่ออสเตรเลีย และร่วมรายการของอเมริกันนิดหน่อย หลังจากนั้นก็เริ่มหันมาทำงานนายแบบ การเป็นนายแบบไม่ใช่อาชีพในฝันของผม แต่ผมประสบความสำเร็จได้ดีในอาชีพนี้ ผมได้ไปหลายประเทศและทำตามความฝันที่อยากไปหลายๆประเทศรอบโลก ผมได้ไป นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น และได้มาเซ็นสัญญาที่กรุงเทพ
ผมถูกเสนอสัญญาจ้างงานที่อินเดีย, สิงคโปร์ และอีกหลายๆประเทศ แต่ผมเลือกท่ีจะอยู่กรุงเทพ ถึงแม้งานนายแบบจะสร้างรายได้ดี แต่ผมเลือกที่จะอยู่ที่นี่เพราะผมรู้สึกว่าผมไม่มีความสุขกับชีวิต และเริ่มที่จะคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขกับชีวิต ผมได้ไปหลายประเทศอย่างที่ผมฝัน แต่ผมยังมีอย่างอื่นที่อยากทำอีก
ผมเสียเวลาประมาณ ปีกว่าๆในกรุงเทพ ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไร และก็ไม่ได้ทำตามฝัน ผมคิดว่าผมจะย้ายไปฮอลลีวูด หรือ อาจจะลอนดอน เพือเป็นนักแสดงที่นั่น ผมเรียนภาษารัสเซียที่ออสเตรเลียได้ 3 ปี แต่ผมก็ลืมจนเกือบหมดแล้ว ผมได้งานแสดงซีรี่ย์ keep in touch จาก GMM Grammy และนั่นได้จุดประกายในตัวผม
ผมจึงคิดได้ว่าผมเสียเวลาไปปีกว่าในประเทศไทย โดยที่ไม่ได้พยายามที่จะเรียนภาษาที่สอง ความฝันในการพูดภาษาที่สองของผมอยู่ตรงหน้าแล้วแต่ผมกลับไม่สนใจ
ผมขี้เกียจที่จะเริ่มเรียนภาษาไทย ผมอ้างกับตัวเองว่าภาษาไทยนั่นยาก ผมยุ่งเกินไป และไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องเรียนเนื่องจากเพื่อนคนไทยของผมต่างก็พูดภาษาอังกฤษกัน ผมเริ่มสูญเสียงานแสดงเพราะผมพูดไทยไม่ได้ เหตุที่ผมคิดว่าภาษาไทยยากนั้นเพราะผมไม่เคยลองเรียน ไม่ได้พยายามมากพอ ผมไม่ได้ยุ่งแต่ผมแค่ขี้เกียจ ผมเจอนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษหลายคนที่บอกว่ายุ่งจากการทำงาน ไม่มีเวลาเรียน และยอมแพ้ ผมเคยเป็นแบบพวกเค้า
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะหยุดขี้เกียจ ดูละครไทย และคิดบวกในการเรียนภาษาไทย ขณะนี้ภาษาไทยของผมพัฒนาขึ้นและในวันนึง (ไม่ใช่วันพรุ่งนี้) ผมจะประสบความสำเร็จในการพูดภาษาที่ 2 ได้อย่างคล่อง ผมต้องอดทนและพยายาม ขณะนี้ผมอยู่ประเทศไทยมาได้ 3 ปีแล้ว ผมเคยเสียเวลาโดยที่ไม่ได้ทำตามฝัน แต่ต่อไปนี้ผมจะพยายามอย่างหนักเพื่อจะเรียนภาษาไทย และมีความสุขที่จะได้เห็นการพัฒนาการของผม
เหตุผลที่ผมบอกคุณนั้นเพราะว่าผมเจอมาหลายคนที่ไม่ได้ทำตามฝัน พวกเขาอยากจะไปต่างประเทศ อยากเป็นแอร์โฮสเตท อยากทำงานในบริษัทต่างชาติ หรืออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้เริ่มทำมัน พอพวกเค้าอายุเยอะขึ้น พวกเค้าจะเริ่มรู้สึกว่าพวกเค้าเสียเวลามากมายไปกับชีวิต ทำในสิ่งที่ครอบครัวต้องการ ทำงานที่มีความมั่นคง ลืมว่าตัวเองเป็นใคร และตัวเองต้องการอะไรในชีวิต
ยิ่งคุณเริ่มเร็วเท่าไหร่คุณยิ่งประสบความสำเร็จอย่างที่คุณหวังเร็วเท่านั้น และอีกอย่างคุณยังไม่แก่ที่จะเริ่มทำตามฝัน ถ้าคุณแก่แล้วคุณยิ่งต้องพยายามอย่างหนักเพื่อบรรลุเป้าหมาย เพื่อชดเชยเวลาที่คุณเสียไป อย่างที่ผมทำอยู่นี้555+
คุณไม่เคยยุ่งและความฝันไม่เคยยากที่จะทำ คุณแค่ต้องพยายามและเชื่อ ความเสียใจของผมคือผมควรจะเริ่มให้เร็วกว่านี้ ผมเสียไปมาก เสียเวลาทำในสิ่งที่ผมไม่ได้อยากทำ
นี่คือชีวิตของคุณ ทำในสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ถ้าคุณล้มเหลวให้คุณเรียนรู้จากมันและเข้มแข็งขึ้น ถ้าคุณไม่ลองคุณไม่มีทางที่จะสำเร็จ อย่าล้มเหลวเหมือนที่ผมเคยเป็น สู้ๆๆ
จากพี่ชายของคุณ
ซันนี่
PHOTO CREDIT: Photo by Glazziq Eyewear. Visit: www.glazziq.com