สวัสดีครับ
กลับมาแล้วกับอีกบล็อกหนึ่งของผม ผมอยากจะเริ่มเขียนบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทยกับหมาของผม นี่คือความฝันของผมที่จะถ่ายทอดเรื่องราวการท่องเที่ยวแบบนี้แต่ผมจะเริ่มจากการที่ให้เพื่อนถ่ายรูปของผม... ยินดีต้อนรับสู่บล็อกแรกเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวกับหมา
แม่ฝรั่งของผมต้องเปิดบล็อกนี้อ่านและเธอจะต้องโทรหาผมและพูดว่านี่คือเหตุผลที่ผมยังไม่แต่งงานเพราะว่าผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับหมา เธอต้องการหลานจริงๆนะ ไม่ใช่หมา 555+ แต่ผมให้หมาเป็นที่หนึ่งเสมอ... มันน่าจะจริง 555+
หลังจากที่ดูซีรีย์เรื่องโอ-เนกาทีฟ มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำมากๆ นั่นคือการไปเที่ยวกาญจนบุรี ผมต้องการที่จะทำเหมือนกับว่าผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเพื่อพบแม่ ผมอยากจะไปโดยรถไฟแต่ผมกลัวว่าเขาจะไม่อนุญาตให้ผมนำหมาขึ้นรถไฟ ผลเลยจบด้วยการขับรถไป
ผมต้องการที่จะไปดูแม่น้ำแควด้วยตาของตัวเอง ซึ่งผมเรียกว่าแม่น้ำ "ควาย" มาตั้งนาน ผมนึกมามันเป็นแม่น้ำที่เกี่ยวกับควาย เพื่อนฝรั่งของผมหลายคนเลยที่อ่านว่าแม่น้ำควายแทนที่จะอ่านว่าแคว.. ผมไม่รู้ว่าทำไม... ควายนี่ก็แปลว่าโง่ ผมก็คิดว่ามันต้องเป็น buffalo river หรือ stupid river แน่ๆ แต่ผมก็เป็นคน stupid ที่ไม่ควรจะฟังเพื่อนฝรั่งผมออกเสียงคำศัพท์ภาษาไทย
หลังจากที่แวะซื้อกาแฟที่ร้านอเมซอน (ผมจะดื่มกาแฟที่อเมซอนก็ต่อเมื่อผมต้องไปต่างจังหวัด) เพื่อที่จะแวะที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานก็เป็นสะพานธรรมดาแต่ก็สามารถมองเห็นเมืองที่สวยงามได้ หมาๆ ชอบที่จะเดินข้ามสะพานและผมก็ไม่ลืมที่จะให้เขากินขนมเพื่อที่จะไม่ต้องถ่ายหรือฉี่ตอนที่เราข้ามสะพาน
ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่มีหลายๆคนพาหมามาและกำลังถ่ายรูปกับหมา ผมเลยไม่รู้สึกว่าผมเป็นคนบ้าที่พาหมามา สะพานนี้ร้อนนะ เราเลยจินตนาการว่าเราอยู่ใน The Face Dog Thailand และกำลังถ่ายแคมเปญสำหรับนักท่องเที่ยวที่กาญจนบุรี เรามีเวลาแค่ 30 วินาทีสำหรับถ่ายรูปก่อนที่ก้นเราจะไหม้ ไม่งั้นเราได้โดดลงสะพานหรือไม่ก็ไปโรงพยาบาลด้วยอาการก้นไหม้ระดับที่ 3 แน่ๆ... มิชชั่นคอมพลีท... พวกเราได้ไป 5000 ไลก์ ผมว่าหมาๆ ของผมคือผู้ชนะสำหรับแคมเปญนี้ #teamgigi #teameffy
มันยากมากที่จะที่หาที่พักในเมืองที่เอาหมาเข้าไปพักได้แต่ในที่สุดเราก็ได้ที่พัก โรงแรมหลายๆ โรงแรมถูกจองจนเต็มเพราะเป็นช่วงวันหยุด
เพื่อนของผมเลยจองห้องพักกั
บโฮมสเตย์ชื่อบ้านไร่คุณย่า (www.facebook.com/Baanraikhunya) และเป็นที่พักที่สวยมาก มันเป็นบ้านไม้ทรงไทยและสามารถมองเห็นแม่น้ำและภูเขา มันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับรีสอร์ท และผมก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิตในต่างจังหวัดของคนไทย
ราคาเริ่มต้นที่ 1600 บาท และคุณสามารถพักได้ตั้งแต่ 2 ถึง 4 คนในบ้านแบบที่เราพัก คุณจะได้บ้านพักส่วนตัว 1 หลัง เตียง 2 เตียง ห้องน้ำ ทีวี และห้องครัว มันเป็นบ้านพักที่ใหญ่ที่สุดที่คุณสามารถเลือกได้
สำหรับรีวิวของผม... ให้ผมรีวิวแบบตรงไปตรงมาแล้วกัน
ด้านดี :
* อาหารเช้า : คือผมเป็นฝรั่ง และที่นี่มีอาหารเช้าแบบุฟเฟ่ต์ ผมดีใจมากที่มีเบคอนกับไข่ให้กิน ผมหมายถึงเบคอนดีๆ กรอบๆ เลยนะ บางทีในบางโรมแรมเบคอนคือแบบจะมีแต่มัน ผมคือคนที่มีความสุขเลยแหละ อาหารเช้าเสิร์ฟตอน 8.30 อย่ามาช้าแบบที่ผมกังวลว่าอาหารมันจะเย็นล่ะ
* บรรยากาศ : มันตั้งอยู่ริมแม่น้ำและมีห้องหลายห้องที่เหล่าหมาๆ สามารถที่จะวิ่งเล่นได้ คุณสามารถลงไปเล่นน้ำได้ และมีหลายอย่างให้ทำที่แม่น้ำ
* พนักงาน : พนักงานที่นี่ช่วยเหลือคุณดีมากและเป็นมิตรมาก ถ้าคุณแจ้งพวกเขาล่วงหน้า 24 ชั่วโมง คุณสามารถที่จะกินอะไรก็ได้เป็นมื้อเย็น
ด้านไม่ดี :
* Wifiใช้ไม่ได้เป็นส่วนใหญ่
* กาแฟ มีแต่กาแฟสำเร็จรูปให้ดื่ม ผมต้องการกาแฟดีๆ ตอนเช้า
สำหรับรีวิวสุดท้ายคือผมจะมาพักที่นี่อีกมั้ย คำตอบก็คือใช่ ผมจะมาอีก ผมมีช่วงเวลาดีๆที่นี่จนผมพักต่ออีกหนึ่งคืน
วันที่สองเราไปอุทยานแห่งชาติเอราวัณ มันสวยมากๆเลยแต่ก็มีคนเยอะมากเช่นกันและเพื่อนผมก็เริ่มที่จะรำคาญ พวกเขาเริ่มบ่นเรื่องแดด ฝน แล้วก็โคลน พวกเขาเหนื่อย และมันก็ไกลที่จะเดินขึ้นไปถึงน้ำตกชั้นสุดท้าย มีน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น
เมื่อเราเดินขึ้นถึงชั้นที่ 5 เพื่อนผมอยากกลับ อยากไปหาแอร์เย็นๆ และกิน ผมก็เลยรีบว่ายน้ำที่น้ำตกชั้น 5 และชั้น 4 แล้วก็กลับ สิ่งที่บ้าที่สุดของน้ำตกที่นี่ก็คือปลาจะเข้ามาตอดเท้า มันโคตรจะจั๊กจี้เลย ตอนนี้ผมรู้สึกแย่เลยที่ไม่ได้ไปถึงชั้นที่ 7 แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่ได้เดินผ่านแม้กระทั้งชั้นที่ 2 แฮชแทค #ขี้เกียจ
ผมจะกลับไปที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณอีกไหม แน่นอนว่าผมจะไป แต่ผมจะไม่ไปในวันหยุดอีกแน่ๆ... คนเยอะมาก... ผมว่าไปวันธรรมดาจะดีกว่า
เวลาที่เหลือพวกเราก็นั่งชิลกันที่แม่น้ำที่โรมแรม ถ้าคุณเห็นรูปถ่ายกับหมาที่พวกเราไปมา ครั้งต่อไปผมจะไปหากิจกรรมสนุกๆเอ็กซ์ตรีมทางน้ำทำที่กาญจนบุรีอีก ผมคิดว่าการเดินขึ้นไปดูน้ำตกก็เป็นกิจกรรมที่เอ็กซ์ตรีมพอสำหรับเพื่อนผมแล้ว ผมไม่อยากให่้เพื่อนผมหัวใจวายตาย
บล็อกต่อไปจะเป็นบล็อกเกี่ยวกับทริปไปสังขละบุรีที่ผมไปอีกวันหนึ่ง